รายละเอียดข่าว

"งูสวัด" พันรอบตัวเสี่ยงเสียชีวิต??

          หลายๆท่านคงได้ยินคนสมัยก่อนพูดกัน หากเป็นโรคงูสวัด แล้วมีตุ่มขึ้นเรียงกันเป็นเส้น แล้วหัวกับท้ายเส้นมาชนกันบนรอบตัวพอดี จะทำให้เสียชีวิตทันที แต่สิ่งที่เรารู้ และเคยได้ยินมานั้นอาจเป็นความเชื่อที่ผิด ดังนั้นเรามารู้จักโรคนี้กันให้มากขึ้น รวมถึงวิธีป้องกันโรคนี้กัน โรคงูสวัด มีสาเหตุเกิดจากอะไร? โรคงูสวัด เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า Varicella Zoster เป็นไวรัสชนิดเดียวกันกับโรคอีสุกอีใส ส่วนชื่อโรคว่า “งูสวัด” น่าจะเป็นคำเรียกกันจากคนไทยโบราณ ที่ชอบเรียกชื่อโรคตามลักษณะอาการที่มองเห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งก็คือลักษณะที่เป็นผื่นพุพอง ทอดเป็นแนวยาวคล้ายตัวงูที่พาดตวัดบนร่างกายของเรา คำว่า “งูสวัด” น่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า “งูตวัด” นั่นเอง โรคงูสวัด มีอาการอย่างไร ในช่วงก่อนผื่นขึ้น 1-3 วัน ผู้ป่วยโรคงูสวัดจะมีอาการปวดแสบ ปวดร้อน คล้ายกับถูกไฟไหม้ โดยเฉพาะบริเวณเส้นประสาทแถวชายโครง ใบหน้า แขน ขา หลังจากนั้นจะเริ่มมีตุ่มน้ำตามมา โรคงูสวัด อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้หรือไม่? โรคงูสวัดไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นทำให้เราเสียชีวิตได้ หากภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยดีขึ้น ร่างกายของผู้ป่วยก็จะสามารถต้านทานเชื้อไวรัส และหายจากโรคได้เองภายใน 10-15 วัน และโรคงูสวัดที่ปรากฏเป็นเม็ดตุ่มแดงๆ จะเกิดขึ้นเพียงซีกใดซีกหนึ่งของร่างกายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผู้ป่วยมีร่างกายที่อ่อนแอมากกว่าปกติ หรืออยู่ในภาวะภูมิต้านทานโรคต่ำ หรือกำลังอยู่ในระหว่างรับยากดภูมิต้านทาน รอยของโรคก็อาจจะสามารถปรากฏขึ้นได้ทั้งสองข้าง จนทำให้มองเห็นเหมือนลักษณะงูพันรอบเอว หรือรอบตัวได้ “ความเชื่อที่ว่า งูสวัดขึ้นรอบตัวแล้วจะเสียชีวิต จึงเป็นเรื่องที่ไม่จริง” อันตรายจากโรคงูสวัด แม้ว่าโรคงูสวัดจะเป็นโรคที่สามารถหายได้เองเมื่อภูมิคุ้มกันร่างกายของเราดีขึ้น และมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นซ้ำน้อย แต่ในบางรายที่ตุ่มน้ำยุบลงไปแล้ว แต่อาการปวดแสบปวดร้อนตามแนวเส้นประสาทยังคงอยู่ เราจะเรียกอาการแบบนี้ว่า อาการปวดประสาทค้าง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือน หรือเป็นปี จนกว่าอาการนี้จะหายสนิท โรคงูสวัด ป้องกันได้อย่างไร รักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เท่านี้ก็ช่วยป้องกันโรคงูสวัดได้มากแล้ว

Views : 61

24 กรกฎาคม 2567

หน่วยงานที่ตอบกลับ : เครือข่าย RRHL